หน้าแรก
   ย้อนประวัติ Background
   อัตรา/บริการ Rate/Services
     - นวดแก้อาการ(บำบัด) Massage for treating the body pains
   ผู้ให้บริการ
     - อ.แม่วราทิพย์
     - หมอบุญเทพ(ติ่ง) บวช ไม่มีกำหนดสึก
     - หมอทานทิพย์(ทิพย์)
   ติดต่อเรา
สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 3
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 4
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 732,671
29 มีนาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
     
10  11  12  13  14  15  16 
17  18  19  20  21  22  23 
24  25  26  27  28  29  30 
31             
  ความเป็นมา
ย้อนอดีตหัตถเวชศาสตร์ Background
จำนวนผู้เข้าชม 23402 คน
 
ย้อนอดีตหัตถเวชศาสตร์
Thai massage in the previous times
 
รุ่นที่ 1  ท่านอาจารย์ปู่ทวดคล้อย คำเพราะ
The 1st generation : Pu Thuat Kloy Khamproh, the famous Thai massage teacher


       ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากอาจารย์ปู่ทวดของทวดท่านใด ก้อมิอาจนำมากล่าวได้ เพราะสืบทราบไปไม่ถึงจึงขอกล่าวแต่ท่านอาจารย์ปู่ทวดคล้อย คำเพราะเท่านั้น ท่านปู่ไฉน ซึ่งเป็นบุตรชายคนเล็กของท่านได้เล่าว่า สมัยก่อนท่านอาจารย์ปู่ทวดคล้อย นวดบำบัดอาการอยู่ที่บ้านเลขที่ 5 บ้านลาดทรายขาว หมู่ 10 ตำบลปอตาโล่ อำเภอวังน้อย จังหวัดอยุธยา ท่านปู่ทวดคล้อย ท่านเป็นคนใจดีมาก การนวดบำบัดอาการของท่านมิได้คิดเป็นเงินเป็นทองแต่ประการใด สุดแต่จะบูชาครู ถ้าไม่มีอัฐก็บูชาเป็นสิ่งของผลไม้ต่างๆ ก็ได้เช่นกัน โดยมิเคยเรียกร้องว่าเท่าใด และโดยมากจะบูชา 1 บาท ซึ่งนับว่ามีค่ามาก เพราะผ่านมาเกือบ 100ปีแล้ว ต่อมาท่านปู่ทวดคล้อยก็บวช และได้ถ่ายทอดวิชาการนวดให้แก่ท่านปู่วัน นัยมานพ ในขณะที่ท่านอายุ 54 ปี ที่ วัดสุคันธาราม บ่อตาโล่ ในปี พ.ศ. 2478

        We can’t know that he was taught by any teacher, so we will mention him only. Pu Chanai, his youngest son, told that in the old days, Pu Thuat Kloy did the massage at 5 Moo 10, Ban Lad Sai Khao, Botalo Sub-district, Wang Noi District, Ayutthaya Province. He was very kind because when he did the massage for anybody, he wouldn’t request the payment. If the people who were massaged didn’t have any money, they could give him only some fruits, but he never demanded the quantities. In general, the people who were massaged should give him some charges. The people always gave him only 1 baht, but its amount was much enough for 100 years ago. Then, when Pu Thuat Kloy was 54 years old, he was ordained at Wat Sao Wangkha in 1935 and taught Pu Wan Naimanop.
 
 
รุ่นที่ 2  ท่านอาจารย์ปู่วัน นัยมานพ 
The 2nd generation : Pu Wan Naimanop


       ท่านได้รับการถ่ายทอดจากท่านอาจารย์ปู่ทวดคล้อย ก็เพราะท่านบวชในขณะที่ท่านอายุ 22 ปี ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยใจดีมากถึงถูกชะตาเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านปู่ทวดคล้อย และชะตาต้องกัน ท่านปู่ทวดคล้อยจึงถ่ายทอดวิชาการนวด พร่ำสอนบอกกล่าวในคราวที่ว่างจากกิจสงฆ์ ต่อมาท่านปู่วันก็มิได้ทำให้ท่านปู่ทวดคล้อยผิดหวังแต่ประการใด เพราะท่านมีชื่อเสียงเป็นสง่าราศีของคนเสาวังคา ท่านเป็นมัคทายก สร้างถนนเข้าวัด และนวดบำบัดอาการผู้คนด้วยจิตเมตตาดังบิดารักบุตร ฉะนั้นบิดาอยากให้บุตรหายจากอาการเจ็บปวดฉันใด ผู้เป็นหมอก็ต้องมีจิตรักคนไข้ฉันนั้น ท่านอาจารย์ปู่ทวดสอนไว้ดังนี้
         ท่านอาจารย์ปู่วันจึงเป็นที่รักใคร่ของคนในระแวกใกล้เคียง ท่านตั้งบ้านเรือนเลขที่ 11 หมู่ 6 บ้านเสาวังคา ตำบลบ่อตาโล่ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ปัจจุบันคุณชาญ นัยมานพ บุตรชายคนเล็กของท่านอาจารย์ปู่วัน นัยมานพ รับนวดบำบัดอาการอยู่ที่บ้านดังกล่าว) และต่อมาท่านได้ถ่ายทอดวิชาการนวดให้แก่ อาจารย์ฮัจยี หมัด พงษ์มุลี ในปี พ.ศ.2512 ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ของข้าพเจ้า (วราทิพย์ จินดาพรรณ)

          When he was taught by Pu Thuat Kloy, he was ordaining and he was 22 years old. Pu Thuat Kloy liked him very much because he was very hospitable. So, Pu Thuat Kloy promulgated him anytime when he was free from the religious activities. Then, Pu Wan didn’t make Pu Thuat Kloy to be disappointed because he was a famous person in Sao Wangkha Village. He was the spiritual guide, got the road through the temple built, and did the massage to the sick people with the kindness as the father loved his son. Pu Thuat Kloy taught that the doctor should always think that he was like the father who wanted his son to recover, so he would try to do everything for his son.
         
The people who lived in the neighborhood loved Pu Wan very much. He lived at 11 Moo 6, Ban Sao Wangkha, Botalo Sub-district, Wang Noi District, Ayutthaya Province where Mr. Chan Naimanop, his youngest son, does the massage there at the present time. After that, in 1969, he taught the massage to Mr. Hadji Mud Pongmulee, who was my teacher (Warathip  Jindapan).

 

รุ่นที่ 3 ท่านอาจารย์ฮัจยี หมัด พงษ์มุลี
The 3rd generation : Mr. Hadji Mud Pong Mulee

        ท่านเป็นชาวมุสลิมอยู่บ้านพลับ ใกล้พระราชวังบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อก่อนท่านเป็นช่างตัดผม ท่านเล่าว่าท่านตัวแข็งทั้งตัว เพราะยืนตัดผมวันละ 30 หัว จึงไปให้คุณพ่อนวดให้(หมายถึงอาจารย์ปู่วัน) พอนวดเสร็จก็รู้สึกสบายทั้งตัว ใจรู้สึกตระหนักถึงคุณค่าของวิชาการนวดเป็นอย่างยิ่ง จึงถามอาจารย์ปู่ว่า ท่านรับลูกศิษย์หรือป่าว กระผมจะขอมาเรียนด้วย ท่านอาจารย์ปู่วันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คนรอบข้างถามว่าจะเอาจริงหรือ พันคนยังไม่ได้สักคนเลย
     ต่อมาท่านอาจารย์ยี จึงพายเรือมาเรียนช่วงบ่ายหลังจากช่วงเช้าท่านก็ตัดผมเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว และนอนบ้านอาจารย์วันเพราะคุณยายท่านกางมุ้งให้นอนทุกคืน ท่านอาจารย์ปู่วันกล่าวว่า จงเพียรเข้าเถิด เพราะจากพระนครเหนือจดใต้ไม่มีหมอเส้นเลย เป็นไวๆจะได้ช่วยเหลือคนเจ็บป่วย ซึ่งอาจารย์ยีท่านก็ตั้งใจเรียนด้วยความเพียร ท่านเรียนจบจนมีฝีมือแล้วลงมากรุงเทพ รับนวดอยู่มักกะสัน และต่อมาปัจจุบันท่านตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ 56/1 หมู่ 1 บ้านกะปงบาซุง ตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
และเสียชีวิตด้วยโรคชรา ด้วยวัย 84 ปี เมื่อ 3 พค. 2561 ที่ผ่านมา

       He was a Muslim who lived in Ban Plub near Bang Pa-in Palace, Bang Pa-in District, Phra Nakhon Si Ayutthaya Province. Formerly, he had been a barber, and his body had been inflexible because he had to stand all day for providing service for 30 customers. So, he went to see Pu Wan for being massaged; after that, he felt very comfortably and became aware of the advantages of the massage. Therefore, he asked Pu Wan to accept him to be a student, and Pu Wan was very pleased. Some of his friends asked him whether he was sure to study the massage because nobody could be succeed.

     He went to Pu Wan’s home by rowing a boat every afternoon because he had to cut the hair for making a living in the morning. He stayed overnight at Pu Wan’s home because his grandmother hung up a mosquito net for him every night. Pu Wan told him to be hard-working because there wasn’t any massagers in this province. He would like him to succeed as soon as possible so that he could care for sick people. After his diligence, he could succeed and did the massage in Makkasan District, Bangkok. At present, he lives at 56/1 Moo 1, Ban Kapong Ba-sung, Bang Lang Dam Sub-district, Bannang Sata District, Yala Province.

 

รุ่นที่ 4 อาจารย์แม่ วราทิพย์(รุ่งทิพยฺ) จินดาพรรณ
The 4th generation : Warathip (Rungthip) Jindapan


   ข้าพเจ้าได้รู้จักกับอาจารย์เมื่อปี พ.ศ.2529 เพราะคุณป้าสันติยาได้เชิญอาจารย์ฮัจยีหมัด มานวดให้ท่านพระโพธิรักษ์ ณ วัดสันติอโศก ตอนนั้นข้าพเจ้าตกมอเตอร์ไซค์ปวดสลักเพชรร้าวลงขา จึงให้ท่านอาจารย์นวดรักษาให้จนหายปวด เลยมองเห็นคุณค่าของวิชานี้ที่ช่วยให้คนหายเจ็บหายป่วย บวกกับท่านอาจารย์ชอบเล่าเรื่องพระอัลเลาะห์ ข้าพเจ้าเองก็ชอบฟังจึงถูกชะตากัน ต่อมาท่านย้ายไปอยู่จังหวัดยะลา และข้าพเจ้าก็ไปส่งท่านถึงยะลา และโชคดีที่สุดเพราะต่อมาท่านอาจารย์ได้ขึ้นมากรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ.2530 ข้าพเจ้าจึงหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านนวดที่ ปากซอยนวลจันทร์8 และได้เชิญอาจารย์มานวดรักษาคนป่วย และสอนนวด ยามเมื่อท่านนวดคนไข้ข้าพเจ้าจะนั่งใกล้ๆ ดูท่านนวดอย่างไร นอนท่าอะไร จนกระทั่งยามว่างๆข้าพเจ้าจะนวดให้อาจารย์ ปรนนิบัติดูแลรับใช้อาจารย์ดุจบิดา และท่านอาจารย์ก็สอนนวดข้าพเจ้าเสมอจวบจนเวลาผ่านไป

             I knew him in 1986 because Aunt Suntiya invited him to do the massage for Monk Pothirak. I was very lucky to meet and studied the massage with him. He liked to narrate the story of Allah. I got along well with him because I liked to listen to it. Then, he moved to Yala Province, and I took him there. The luckiest thing was that he always went to my home for doing the massage for sick people and he would stay here for more than one month. When he did the massage, I would sit near him and noticed his methods. When he was free, I would try to do the massage for him and he taught me also.

 
 

รุ่นที่ 5 ข้าพเจ้ามีบุตรชาย 5 คน
ปัจจุบัน บุตรชายคนที่ 5 นายทานทิพย์ เป็นหมอนวดหลักคนเดียว

คลองเพศบรรพชิต 2คน คือ 
บุตรชายคนที่ 4 บวชปี49 จำวัดอยู่ที่ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
บุตรชายคนที่ 2 บวชปี59 จำวัดอยู่ที่ วัดศริพงษ์ ธรรมนิมิต (วัชรพล)

บุตรชายคนที่ 1 ทำงานอื่น

The 5th generation( present generation): the 5th son, Mr. Tantip is the main massage trainer.      The 3rd son, Mr. Sriwattana, is also conducting some massage.
The other two sons are Buddhist monks from 2006 and 2016. The last one does other work.

         ที่ผมจำได้แม่นเลยคือตอน 5-6ขวบ (ปี2530) แม่ชอบพาลูกๆหาท่านอาจารย์ฮัจยีหมัด   ที่บ้านนวลจันทร์(ร้านปัจจุบัน) มาดูท่านอาจารย์ว่าท่านนวดรักษาคนเจ็บคนป่วยอย่างไร พวกพี่ชายก็นั่งดูดีๆ ส่วนผมด้วยความเป็นเด็ก ผมก็ชอบมุดหนีลงไปนอนเล่นใต้เตียงคนไข้ตลอด
จนพี่ชายกับแม่ต้องเอาขนมมาล่อ ผมถึงจะยอมขึ้นมานั่งดูอาจารย์นวดและก็กินขนมไปด้วย  เป็นแบบนี้ประจำตลอด เสาร์-อาทิตย์ หรือโรงเรียนปิดเทอม และเวลานอน พวกลูกๆทุกคนจะนอนด้วยกันกับแม่ แม่จะเรียกให้ไปรุมนวดท่าน ระหว่างนวดท่านๆ ก็จะสอนไปว่า...มีอาการปวดบริเวณนี้ ให้นวดแก้อาการเส้นนี้จึงจะหายปวด วิธีการนวดๆอย่างไร ลงน้ำหนักขนาดไหน ลงแรงดิ่งทิศทางไหน
        
จนกระทั่งท่านเห็นว่าผมนวดถูกต้อง (ม.2 อายุ14 ปี2539) ช่วงปิดเทอม หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แม่จะให้ลงนวดคนป่วยที่มีอาการปวดไม่หนักมาก เพราะเด็กๆนิ้วโป้งยังไม่มีแรงกด ก็ใช้วิธีการ ใช้ศอกบ้าง เข่าบ้าง ขึ้นเหยียบบ้าง     เวลาผ่านไป ประสบการณ์มากขึ้น+นิ้วโป้งมีแรงกดมากขึ้น+ก่อนนอนแม่จะเรียกลูกทุกคนมาทดสอบฝีมือ ปวดตรงนี้ต้องนวดตรงไหนบ้าง เริ่มจากจุดไหนก่อน นวดจากไหนไปไหน เส้นนี้ลงน้ำหนักนวดได้แค่ไหน เวลานวดดิ่งทิศทางไหน กดค้างไว้นานเท่าไร ข้อควรระวังมีอะไรบ้าง โดยการที่แม่เป็นหุ่นให้ลูกนวดเองกับตัว
    
แม่จะบอกว่า...นวดถูกต้อง ตรงเส้น ตรงกล้ามเนื้อ น้ำหนักดี ท่านถึงจะยอมให้ผมลงนวดแก้อาการกับคนป่วยจริงๆ ผมนวดจนถึงอายุ19 (ปี2544) แม่จึงอนุญาตให้ผมลงนวดแก้อาการรักษาอาการปวดต่างๆ ได้หมดทุกอาการ แต่ต้องอยู่ในสายตาแม่ เพราะเมื่อนวดผิดหรือมีอะไรที่ต้องระวัง ท่านจะคอยบอกอยู่ข้างๆเสมอ

             When I was young, my older brother and I slept together with my mother. She called us to massage. During massage, she taught how to massage, compress which sports to relieve pain, the intensity of pressure and massage.

      Until she saw that I could do massage in correct way (I was at grade 7, aged 13 years in 1996). She allowed me to massage the patient with not severe symptom. At that time, I could not compress hard. After practicing, my compression by thumbs were harder, I had more experience. Before going to bed, my mother called me to do a massage test with her.
      Until my mother saw that I could massage very well with effective intensity and correct direction, she permitted me to massage the patient. I had did this until I was 19 years. My mother allowed me to perform massage to alleviate all symptoms.

 
    นาย ทานทิพย์ จินดาพรรณ
 

        วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2539 ข้าพเจ้าก็เปิดนวดบำบัดอาการที่บ้านเลขที่ 67/51 หมู่5 ถนน นวมินทร์46
แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ใช้ชื่อว่า หัตถเวชศาสตร์5 นวดบำบัด ตำรับกรุงศรีอยุธยา
และได้เปลี่ยนชื่อเป็น อาศรมพฤกษา โดยมีบุตรชาย 5 คน เป็นผู้ร่วมสืบสานภูมิปัญญาไทย มรดกอันล้ำค่าสืบไป

          Finally, on 4th March 1996, I started to do the massage at my house, 67/51 Moo 5, Nawamin 46 Road,
Klongkum Sub-district, Buengkum District, Bangkok. I gave the name Asom-preuksa, Thai Massage as the pattern
of the Ayutthaya period. My 5 sons and I try to keep on the Thai wisdom.


1 มค.2559 ย้ายกลับมาเปิดร้าน ที่ดั้งเดิมสมัย ท่านอาจารย์ ฮัจยี หมัด พงษ์มุลี ท่าทอดวิชา
นวดบำบัดตำรับกรุงศรีอยุธยาให้ ที่ ถนนนวลจันทร์ ซอย8 (ปากซอย)

I reopened the massage parlor on the main street of Nuan Chan Soi 8 where Mr. Hadji Mud Pong Mulee
used to teach the massage as the pattern of the Ayutthaya period.


แผนที่คลิก https://goo.gl/maps/tx94JMXakEt
You can see the map by clicking here https://goo.gl/maps/tx94JMXakEt

 

                   ลง นิตยาสารมติชน เส้นทางเศรษฐี ฉบับที่ 23 มกราคม พ.ศ.2540
 














                                                                                            นิตยสาร ชีวิตต้องสู้ พ.ศ.2540








                                           หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับที่3451 วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2541













 
ความเป็นมา
- รูปภาพ
- ย้อนอดีตหัตถเวชศาสตร์ Background
ดูทั้งหมด

Copyright by asom-preuksa.com
Engine by MAKEWEBEASY